ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา หลายคนคงอิ่มเอมกับกองทัพหนังที่พาเหรดเข้าฉายอย่างคับคั่ง
เริ่มตั้งแต่หนังตลก แอ็คชั่น สยองขวัญ ไปจนถึงรักโรแมนติก โดยแต่ละเรื่องก็ประสบความสำเร็จด้านรายได้ต่างกันออกไป
ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีหนังบางเรื่องที่ต้องผิดหวังไม่มากก็น้อย
โดยเว็บไซต์ The Wrap ได้รวบรวมรายชื่อหนัง 18 เรื่องที่ทำรายได้ไม่ค่อยสวยบน Box-Office ประจำปี 2014
ซึ่งวัดจากการเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก เราไปดูกันเลยแล้วกันว่าหนังคุณเคยเสียเงินให้กับผลงานต่อไปนี้บ้างหรือเปล่า
The Legend of Hercules
ในปีที่ผ่านมามีหนัง 2 เรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับฮีโร่ยุคกรีกโบราณ เรื่องแรกคือ The Legend of Hercules ที่นำแสดงโดย เคลแลน ลุตซ์ (Kellan Lutz) แต่ทว่ารายรับของหนังเรื่องนี้กลับน่าผิดหวัง เพราะสามารถทำเงินจากทั่วโลกได้เพียง 61 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 70 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าขาดทุนไปตามระเบียบ ในขณะที่หนังอีกเรื่องซึ่งชื่อว่า Hercules กลับทำรายได้อย่างงดงามด้วยการปิดตัวเลขจากทั่วโลก 243 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จในบ้านตัวเอง แต่ The Legend of Hercules ก็ทำเงินในประเทศไทยได้ราว 28 ล้านบาทเลยทีเดียว
I, Frankenstein
ถึงแม้จะมีซิกแพคสวย ๆ ของ แอรอน เอ็กคาร์ท (Aaron Eckhart) มาล่อตาล่อใจ แต่ก็ไม่สามารถทำให้หนังแอ็คชั่น-ไซไฟ เรื่อง I, Frankenstein ทำเงินได้อย่างที่วาดฝัน โดยหนังเรื่องนี้ทำรายได้เปิดตัว 8.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนสงบนิ่งด้วยรายได้ในประเทศ 19 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ผลงานนี้ยังได้รับความนิยมจากผู้ชมต่างชาติอยู่บ้าง พิสูจน์ได้จากรายรับรวมจากทั่วโลก 71 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคิดเป็นรายได้จากไทย 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 48 ล้านบาท ทำให้รอดพ้นจากการขาดทุนด้วยทุนสร้าง 65 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้อย่างหวุดหวิด
Winter's Tale
ถือเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่รายได้น่าผิดหวังพอสมควรสำหรับ Winter's Tale หนังดราม่าซึ่งนำแสดงโดย โคลิน ฟาร์เรล (Colin Farrell) เพราะถึงแม้จะนำรายได้จากในและนอกสหรัฐอเมริกามาบอกกัน ตัวเลขที่ออกมาก็ได้เพียงแค่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นครึ่งหนึ่งของทุนสร้าง 60 ล้านเหรียญสหรัฐ งานนี้ทำเอาผู้กำกับอย่าง อคิวา โกลด์สแมน (Akiva Goldsman) กุมขมับไปพักใหญ่เลยทีเดียว
Vampire Academy
ถึงแม้ว่า Vampire Academy จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกามากกว่า 2,500 โรงฉาย แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้หนังเรื่องนี้โกยเงินได้ตามเป้า โดยทำรายได้จากการเปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นั้นไปเพียงแค่ 3.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นผลงานของค่าย Weinstein Company ที่ทำเงินน่าผิดหวังเป็นลำดับที่ 11 ซึ่งจุดจบของหนังเรื่องนี้ปิดบัญชีด้วยรายรับจากทั่วโลก 15.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
Pompeii
ตำนานภูเขาไฟสุดยิ่งใหญ่อย่าง Pompeii ถูกนำมาเล่าอีกครั้งโดยฝีมือของผู้กำกับ พอล ดับเบิ้ลยู เอส แอนเดอร์สัน (Paul W.S. Anderson) ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่า หนังฟอร์มยักษ์ไม่จำเป็นต้องทำเงินถล่มทลายเสมอไป โดยหนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างทั้งสิ้น 100 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่กลับทำรายได้ในประเทศเพียง 23 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้สร้างยิ้มออกได้บ้างเห็นจะเป็นรายได้รวมจากทั่วโลก 117 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในจำนวนเหล่านั้นมีเงินจากนักดูหนังชาวไทย 867,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 28 ล้านบาท
The Single Moms Club
ผู้กำกับผิวสี ไทเลอร์ เพอร์รี่ (Tyler Perry) ถึงกับกุมขมับเมื่อได้ทราบว่า หนังแนวดราม่า-คอมเมดี้เรื่อง The Single Moms Club คือผลงานที่ทำรายได้เปิดตัวต่ำสุดนับตั้งแต่เขาทำหนังมา โดยรายรับเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์นั้นอยู่ที่ 8.3 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำรายได้รวมจากทั่วโลกทั้งสิ้น 16 ล้านเหรียญสหรัฐ จนตอนนี้ผู้กำกับคนดังกล่าวตัดสินใจวางมือจากการทำหนัง แล้วเผ่นไปทำงานด้านทีวีเสียแล้ว
Sabotage
ไม่น่าเชื่อว่าหนังเรื่อง Sabotage ซึ่งนำแสดงโดยดาราระดับแม่เหล็กอย่าง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) จะทำรายได้เปิดตัวอย่างน่าผิดหวังเพียงแค่ 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยถือเป็นผลงานของเขาที่ทำรายได้เปิดตัวแย่ที่สุดในรอบ 30 ปี ซึ่งท้ายที่สุด หนังโกยรายได้รวมจากทั่วโลก 17 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยทำเงินในไทยประมาณ 379,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 12 ล้านบาท
Haunted House 2
หนังภาคต่อแนวตลกปนสยองขวัญเรื่อง Haunted House 2 ทำรายได้เปิดตัวในเดือนเมษายนด้วยตัวเลข 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าภาคแรก แต่ท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้ก็เอาตัวรอดด้วยการสถิติจากทั่วโลก 23 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเทียบกับทุนสร้างจำนวน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เท่าไร
The Quiet Ones
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ค่าย Lionsgate ส่งหนังสยองขวัญจากเมืองผู้ดีที่ชื่อว่า The Quiet Ones ลงสนาม Box-Office ด้วยรายได้เปิดตัว 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และในตลอดระยะเวลาที่ยืนโรงฉายมากกว่า 6 สัปดาห์ หนังเรื่องนี้กลับทำรายได้จากทั่วโลกเพียงแค่ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นตัวเลขจากประเทศไทยประมาณ 17,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 550,000 บาท
Moms' Night Out
ดูเหมือนว่าปี 2014 จะไม่ใช่ปีทองสำหรับหนังคอมเมดี้เอาเสียเลย โดยหนึ่งในเหยื่อที่พ่ายแพ้ในสงคราม Box-Office ประจำปีนี้ได้แก่หนังเรื่อง Moms' Night Out ที่ทำรายได้รวมทั้งสิ้น 10 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือแม้จะรอดพ้นจากการขาดทุนมาได้อย่างหวุดหวิด แต่กำไรที่ได้ก็ถือว่าน้อยนิดจนอาจทำให้นายทุนหัวเสียไปอีกหลายวัน
Get On Up
Get On Up คือหนังคุณภาพที่สร้างจากชีวประวัติของนักร้องผิวสี เจมส์ บราวน์ (James Brown) และนำแสดงโดย แชดวิก โบสแมน (Chadwick Boseman) แต่ถ้าหากพิจารณาจากรายรับ 31 ล้านเหรียญสหรัฐแล้วละก็ ถือว่าหนังเรื่องนี้ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร สวนทางกับคำชื่นชมของนักวิจารณ์ที่ยกนิ้วให้ผลงานชิ้นนี้อย่างถ้วนหน้า
The Expendables 3
หากมองเผิน ๆ The Expendables 3 ดูเหมือนจะปิดบัญชีรายรับได้น่าพอใจมากทีเดียว เพราะชื่อเสียงของนักแสดงนำอย่าง ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) และแก๊งเพื่อนนักบู๊น่าจะช่วยส่งให้หนังเรื่องนี้ทำรายได้รวมจากทั่วโลกทั้งสิ้น 206 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถึงกระนั้นหนังเรื่องนี้กลับทำเงินในอเมริกาได้เพียง 39 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลอดการเข้าฉาย 6 สัปดาห์ ส่วนในไทยก็ทำรายได้ไป 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 35 ล้านบาท กลายเป็นท่าดีทีเหลวไปซะได้
A Million Ways to Die in the West
A Million Ways to Die in the West คือหนังแนวเบาสมองของผู้กำกับ เซ็ธ แม็คฟาร์เลน (Seth MacFarlane) จากเรื่อง TED ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผู้ชมไม่ค่อยปลื้มหนังเรื่องนี้หรืออย่างไร ถึงได้อุดหนุนด้วยตัวเลขเพียง 86 ล้านเหรียญสหรัฐจากทั่วโลก ส่วนผู้ชมในไทยเทใจให้เพียง 170,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 5.5 ล้านบาท
The Giver
น่าเสียดายจริง ๆ ที่หนังซึ่งสร้างจากนิยายของนักเขียนชื่อดัง ลูอิส เลาว์รี (Lois Lowry) และนำแสดงโดย เจฟฟ์ บริดเจส (Jeff Bridges), เบรนตัน ทเวทส์ (Brenton Thwaites) รวมถึง เมอรีล สตรีป (Meryl Streep) กลับทำเงินได้เพียง 66 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคิดเป็นรายได้ในประเทศ 45 ล้านเหรียญสหรัฐ และรายได้จากต่างประเทศ 21 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นข้อพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า หากมีของดีแต่ไม่ใช่ให้เต็มศักยภาพก็คงไม่ช่วยอะไร
A Walk Among the Tombstones
ผลงานเรื่องล่าสุดของพระเอก เลียม นีสัน (Liam Neeson) เข้าฉายก่อนผลงานของ เดนเซล วอชิงตัน (Denzel Washington) ที่มีชื่อว่า The Equalizer เพียงหนึ่งสัปดาห์ แต่ถึงแม้ทั้งสองเรื่องจะมีแนวทางคล้ายคลึงกัน แต่รายรับของทั้งคู่กลับต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดย A Walk Among Tombstones ทำรายได้จากทั่วโลก 53 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ The Equalizer โกยเงินได้สูงถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ
The Identical
การที่หนังเรื่องใดขึ้นชื่อว่ามีความไพเราะด้านเสียงเพลง น่าจะการันตีได้ในระดับหนึ่งว่าคนดูน่าจะเทใจได้ไม่ยาก แต่ความเชื่อนี้ใช้ไม่ได้ผลกับ The Identical หนังแนวมิวสิคัล-ดราม่า ที่ทำรายได้ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการเปิดตัวในเดือนกันยายน และลาโรงไปอย่างสงบในอีก 2 สัปดาห์ถัดมาด้วยรายได้รวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ
The Best of Me
หนังแนวดราม่า-โรแมนติก The Best of Me สร้างจากนวนิยายขายดีของ นิโคลัส สปาร์คส์ (Nicholas Sparks) โดยใช้ทุนสร้างทั้งสิ้น 26 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่หนังเรื่องนี้สามารถทำรายได้ในสหรัฐอเมริกาเท่ากับทุนสร้างพอดีเป๊ะ ! ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่หลายคนตั้งเป้าไว้ นี่ถ้าไม่ได้รายได้จากต่างประเทศมาช่วยพยุงให้ถึงหลัก 35 ล้านเหรียญสหรัฐละก็ ทีมผู้สร้างคงหายใจไม่ทั่วท้องแน่ ๆ
Men, Women & Children
นี่คงเป็นหนังเพียงไม่กี่เรื่องในปี 2014 ที่ทำเงินได้ไม่ถึงหลักล้าน โดยผู้กำกับ เจสัน ไรท์แมน (Jason Reitman) ส่งหนังเรื่อง Men, Women & Children เข้าฉายในเดือนตุลาคม ก่อนทำรายได้รวมทั้งสิ้น 705,908 เหรียญสหรัฐ แต่ท้ายที่สุดก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและลาโรงในอีก 4 สัปดาห์ถัดมา
Transcendence
หนังไซไฟหน้าตาดูดีอย่าง Transcendence คือผลงานที่ทำเงินหน้าผิดหวังเป็นลำดับที่ 4 ในชีวิตการแสดงของ จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) รองจาก The Lone Ranger, Dark Shadows และ Rum Diaries ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับการตอบรับจากผู้ชมต่างประเทศดีกว่าในประเทศ โดยคิดเป็นเงินจากชาวอเมริกันทั้งสิ้น 23 ล้านเหรียญสหรัฐ และอีก 80 ล้านเหรียญสหรัฐจากต่างประเทศ คิดเป็นรายได้รวมทั่วโลก 103 ล้านเหรียญสหรัฐ
เครดิต kapook
